เมื่อเราขาดแคลนน้ำ มีความต้องการใช้น้ำ ใช้กิน ใช้ดื่ม ใช้ทำการเกษตร เราก็ต้อง ตรวจสอบคุณภาพน้ำบาดาล ขุดเจาะบ่อบาดาล และสูบเอาน้ำบาดาลขึ้นมาใช้กันใช่ไหมครับ💧

แต่เราจะรู้ได้ยังไงว่า น้ำที่สูบขึ้นมานั้นเป็นน้ำที่สะอาดมากพอที่จะนำมาใช้อาบ ล้าง หรือดื่มกินได้อย่างไม่เป็นอันตราย⁉️

คงไม่ดีแน่ถ้าใช้น้ำซักผ้าแล้วมีคราบตะกอนติดอยู่ หรือว่าดื่มน้ำเข้าไปแล้วป่วยใช่ไหมล่ะครับ😓

ดังนั้น ก่อนที่เราจะนำน้ำที่สูบขึ้นมาไปใช้ ก็ควรจะส่งตัวอย่างน้ำไป ตรวจสอบคุณภาพน้ำบาดาล และ วิเคราะห์คุณภาพซะก่อนนะครับ🔎

ซึ่งการเก็บตัวอย่างน้ำไปส่งตรวจจะมีขั้นตอนอะไรบ้าง การส่งน้ำไปตรวจวิเคราะห์จะมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง เราไปดูกันเลยครับ📝

1. เก็บตัวอย่างน้ำที่ต้องการวิเคราะห์จากบ่อบาดาล
โดยมีวิธีการตามนี้เลยครับ

1.ให้สูบน้ำจากบ่อทิ้งไปประมาณ 15 นาที ก่อนจะเก็บตัวอย่างน้ำ
2. ภาชนะที่ใช้เก็บควรเป็นขวดแก้วหรือขวดพลาสติกที่สะอาด โดยการล้างทั้งขวดและฝาด้วยน้ำบาดาลตัวอย่างประมาณ 2-3 ครั้ง แล้วจึงเก็บตัวอย่างน้ำให้เต็มขวด ปริมาณไม่น้อยกว่า 1.5 ลิตร ต่อขวด(ควรเก็บอย่างน้อย 1 – 5 ขวดเป็นต้นไป)

2. เขียนฉลากปิดข้างขวดโดยใส่รายละเอียดดังนี้ครับ

• หมายเลขบ่อ/ ใบอนุญาตของบ่อ
• สถานที่ตั้ง หรือพิกัดของบ่อ
• ความลึกของบ่อ
• ชื่อผู้เก็บตัวอย่างน้ำ
• วันที่เก็บตัวอย่างน้ำ

เมื่อเก็บตัวอย่างพร้อมเขียนฉลากข้างขวดเรียบร้อยแล้ว ก็นำตัวอย่างน้ำส่งไปวิเคราะห์ได้เลยครับ

3. ไปยื่นคำร้องขอวิเคราะห์น้ำได้ที่

• สำนักควบคุมกิจการน้ำบาดาล กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กทม.
• สำนักงานธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของจังหวัดนั้นๆ

หลังจากเขียนใบคำร้องเรียบร้อยแล้ว จึงส่งตัวอย่างน้ำที่เก็บมาให้กับทางเจ้าหน้าที่กรมฯโดยจะมีค่าบริการตรวจวิเคราะห์น้ำตัวอย่างละ 1,200 บาท

4. เจ้าหน้าที่กองวิเคราะห์น้ำบาดาลดำเนินการวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำ

โดยจะวิเคราะห์คุณลักษณะทางกายภาพ ได้แก่ สี ความขุ่น และความเป็นกรด-ด่างของน้ำ

และวิเคราะห์ลักษณะทางเคมีของตัวอย่างน้ำ เช่น ค่าแร่ธาตุต่าง ๆ ที่อยู่ในน้ำ และความกระด้างของน้ำ เป็นต้น

เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการวิเคราะห์เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงจะแจ้งผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำกลับมายังเราอีกครั้ง

สรุปคือ ประโยชน์ของการ ตรวจสอบคุณภาพน้ำบาดาล จะช่วยให้เรารู้ว่าน้ำที่ได้มามีความปลอดภัยที่จะนำมาใช้บริโภคหรือไม่ และควรจะปรับปรุงคุณภาพน้ำอย่างไรบ้าง ทำให้เราได้น้ำที่สะอาดและปลอดภัยที่สุดในการนำมาใช้อุปโภค-บริโภคครับ

โดยปกติแล้ว ถ้าเราสูบน้ำขึ้นมาไว้ใช้สำหรับการทำเกษตรเพียงอย่างเดียว ไม่จำเป็นต้องส่งตรวจสอบคุณภาพน้ำกับทางกรมฯ ก็ได้ แต่ถ้าต้องการส่งตรวจ ก็จะทำให้เรารู้ว่าในน้ำมีความเป็นกรด-ด่าง และแร่ธาตุที่เหมาะสมกับพืชพรรณที่ปลูกอยู่ด้วยมากน้อยแค่ไหนครับ

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : กรมทรัพยากรน้ำบาดาล

หากใครอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องการขออนุญาตเจาะน้ำบาดาลและอื่นๆ ลองคลิกไปอ่านดูนะครับ:
หลักเกณฑ์การขออนุญาตเจาะน้ำบาดาลของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล
ซื้อที่ดินแล้วพบว่ามีบ่อบาดาลอยู่แล้วต้องทำอย่างไรบ้าง? 
สถานที่ประเภทใดสามารถขอเจาะใช้น้ำบาดาลได้บ้าง?

สุดท้ายนี้!! หากใครกำลังมองหาปั๊มบาดาลที่ดี มีคุณภาพ มาตรฐานสากล คุณสมบัติเยี่ยม สูบน้ำได้แรงสะใจ แรงสูบสม่ำเสมอ ใบพัดสะบัดหิน สะบัดทราย ปัญหาไม่จุกจิก มีระบบป้องกันไฟเกิน และสามารถทนไฟตกได้มากถึง 170V และที่สำคัญมีการรับประกันตลอด 1 ปีเต็ม ทั้งตัวเครื่องและมอเตอร์ หากปั๊มมีปัญหาและยังอยู่ในปีรับประกัน สามารถส่งเคลมกับเราได้เลยทันที ต้องปั๊มบาดาลทอร์คเท่านั้น

ปั๊มบาดาลทอร์ค ทน แกร่ง แรงจัด

ติดตามข่าวสาร โปรโมชั่น และสาระดี ๆ จาก TORQUE เพิ่มเติมได้ที่:

1. Facebook: ปั๊มบาดาลทอร์ค Torque
2. LineID: @pumptorque
3. Tel: 02-925-6660
4. Hotline : 081-444-8102 (สายด่วนปรึกษาเรื่องปั๊มน้ำ)
5. Email : marketing@soiha.com
6. Website: torque-th.com