น้ำกับการทำเกษตรในประเทศไทย

น้ำกับการทำเกษตรในประเทศไทย

เพื่อน ๆ ต่างก็ทราบกันดีใช่ไหมครับ ว่าประเทศไทยของเราเป็นประเทศเกษตรกรรมมาช้านาน น้ำกับการทำเกษตรในประเทศไทย นั้นจึงคู่กันมานาน เนื่องจากพื้นที่ของประเทศไทยนั้นมีภูมิประเทศและสภาพอากาศที่เหมาะกับการทำเกษตรกรรมหลายรูปแบบ รวมถึงทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์อยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากที่ใช้ในการทำการเกษตรทุกประเภท

จากข้อมูลความต้องการใช้น้ำทั้งประเทศ ทั้งน้ำผิวดินและน้ำบาดาลในปีพ.ศ.2562 / 2563 ของกรมทรัพยากรน้ำ พบว่า มีความต้องการใช้น้ำเพื่อทำการเกษตรมากถึง 82.5% ของการใช้น้ำทั้งหมด มากกว่าการใช้น้ำเพื่ออุปโภค – บริโภค เพื่อทำอุตสาหกรรม และเพื่อรักษาระบบนิเวศทั้งประเทศรวมกันเสียอีก เยอะมาก ๆ เลยนะครับ!

วันนี้เราจะมาดูกันว่า น้ำกับการทำเกษตรในประเทศไทย นั้น พี่น้อง ลุงป้า น้าอา ชาวเกษตรกรเขาต้องใช้น้ำในการทำอะไรบ้าง มาดูกันเล้ย!

น้ำกับการทำเกษตรในประเทศไทย

เมื่อพูดถึงการเกษตร สิ่งแรกที่ทุกคนนึกถึงก็คือ การปลูกพืชผัก ผลไม้ และทำนาข้าว ซึ่งเป็นอาหารหลักของคนในประเทศ จึงมีความต้องการใช้น้ำในปริมาณมาก

โดยปริมาณน้ำที่ใช้เพื่อการเพาะปลูกก็จะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำที่พืชชนิดนั้นต้องการ และในแต่ละช่วงเจริญเติบโตของพืชก็ยังต้องการน้ำไม่เท่ากันอีกด้วย เกษตรกรจึงต้องวางแผนบริหารจัดการน้ำและพัฒนาแหล่งน้ำให้เหมาะสม เพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนน้ำ

นอกจากเราจะต้องมีน้ำสำหรับอุปโภค-บริโภคของคนแล้ว สัตว์ที่เกษตรกรเลี้ยงก็ต้องการน้ำเช่นกัน โดยวัวและควายต้องการน้ำตัวละประมาณ 50 ลิตรต่อวัน หมูตัวละประมาณ 20 ลิตรต่อวัน ไก่ตัวละประมาณ 0.15 ลิตรต่อวัน เป็นต้น

ในพื้นที่เลี้ยงสัตว์ที่อยู่ห่างไกลจากแหล่งน้ำ หรือประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเป็นประจำ ควรมีการบริหารจัดการน้ำที่ดี เพื่อให้มีน้ำเพียงพอต่อการเลี้ยงสัตว์ทุกตัวนะครับ

น้ำกับการทำเกษตรในประเทศไทย

ในการใช้น้ำสำหรับเลี้ยงปลา เกษตรกรสามารถใช้อ่างเก็บน้ำ สระเก็บน้ำ หรือหนองบึงที่มีน้ำตลอดทั้งปีในการเลี้ยงปลาได้เลย

โดยในช่วงปลายฤดูแล้ง หรือช่วงก่อนที่จะมีน้ำฝนไหลลงมาให้กักเก็บใหม่ ควรให้มีน้ำเหลือในแหล่งน้ำมีความลึกไม่น้อยกว่า 1 เมตร เพื่อให้ปลาสามารถเจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

ในการทำเกษตรทั้งการเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ และเลี้ยงปลานั้นจำเป็นต้องใช้น้ำในปริมาณมาก และต้องมีการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงการพัฒนาแหล่งน้ำที่ดีเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำ ที่จะทำให้ผลผลิตที่ได้น้อยหรือเสียหายได้

วิธีการจัดการน้ำที่เกษตรกรนิยมใช้นั้นมีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ดังต่อไปนี้

1.ฝายทดน้ำ เป็นอาคารที่สร้างปิดขวางทางน้ำไหล เพื่อทดน้ำที่ไหลมาทำให้ระดับน้ำสูงขึ้น จนสามารถผันเข้าสู่คูคลองส่งน้ำของเกษตรกรได้

2.อ่างเก็บน้ำ หรือเขื่อนกักเก็บน้ำ คือการสร้างแหล่งเก็บน้ำที่ไหลมาจากลำน้ำธรรมชาติ โดยการสร้างเขื่อนปิดกั้นระหว่างหุบเขาหรือเนินสูง เพื่อกักเก็บน้ำรวมไว้ในพื้นที่ระหว่างหุบเขา

3. สระเก็บน้ำ คือการสร้างแหล่งกักเก็บน้ำฝน หรือน้ำที่ไหลออกมาจากดิน ด้วยการขุดดินเป็นสระสำหรับเก็บขังน้ำ มีขนาดและความลึกตามปริมาณน้ำที่ต้องการ

4.คลองส่งน้ำ คือการขุดหรือสร้างทางน้ำเพื่อนำน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ หรืออ่างเก็บน้ำแจกจ่ายไปยังพื้นที่เพาะปลูก หรือบริเวณที่ต้องการใช้น้ำในพื้นที่ของเรา

น้ำกับการทำเกษตรในประเทศไทย

5.การขุดลอกหนองและบึง เป็นการขุดลอกหนองและบึงธรรมชาติที่ตื้นให้ลึกขึ้น ทำให้สามารถกักเก็บน้ำได้มากขึ้น และยังช่วยลดปัญหาน้ำท่วมเมื่อถึงฤดูน้ำหลากอีกด้วย

6.การสูบน้ำ เป็นการสูบน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น แม่น้ำ หนอง บึง แหล่งน้ำบาดาล หรืออ่างเก็บน้ำ เพื่อลำเลียงน้ำไปยังพื้นที่ที่อยู่ห่างไกลแหล่งน้ำ ทำให้สามารถมีน้ำใช้ได้ในเวลาที่ต้องการ

ในการเลือกงานพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร จะต้องมีการศึกษาความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ สภาพแหล่งน้ำ และภูมิประเทศเสียก่อน เพื่อให้สามารถเลือกสร้างงานพัฒนาแหล่งน้ำที่เหมาะสมและใช้ประโยชน์ได้สูงสุดนะครับ

หากใครต้องการปั๊มน้ำคุณภาพดี แข็งแรง ทนทาน มีการการันตีด้วยมาตรฐานอิตาลี อายุการใช้งานยาวนาน คุ้มค่า คุ้มราคา มาใช้เป็นตัวช่วยเรื่อง น้ำกับการทำเกษตรในประเทศไทย

เราขอแนะนำปั๊มน้ำเพื่อการเกษตรทั้ง 3 ประเภทจาก TORQUE:

  • ปั๊มบาดาลทอร์ค ใช้สำหรับสูบน้ำจากบ่อน้ำบาดาล และส่งขึ้นไปเก็บในถังเก็บน้ำ เอาไว้ใช้ได้ตลอดทั้งปี
  • ปั๊มหอยโข่งทอร์ค ใช้สูบลำเลียงน้ำจากแหล่งน้ำ และส่งไปรดน้ำพืชผลได้ทั่วถึงทั้งพื้นที่
  • ปั๊มจุ่มทอร์ค ใช้สำหรับใช้สูบระบายน้ำท่วมขัง หรือสูบน้ำจากสระเก็บน้ำที่เป็นบ่อปูน พื้นปูน พื้นกระเบื้องหรือพื้นพลาสติก และใช้ทำบ่อเลี้ยงปลา เป็นต้น

ถ้าอยากได้ปั๊มที่มีประสิทธิภาพดี แข็งแรง ทนทาน ก็ต้องปั๊ม TORQUE เลยครับ!

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร: https://www.arda.or.th/knowledge_detail.php?id=13

ติดตามข่าวสาร โปรโมชั่น และสาระดีๆจาก TORQUE เพิ่มเติมได้ที่:
1. Facebook: ปั๊มบาดาลทอร์ค Torque
2. Line ID: @pumptorque
3. Tel: 02-925-6660
4. Hotline : 081-444-8102 (สายด่วนปรึกษาเรื่องปั๊มน้ำ)
5. Email : marketing@soiha.com
6. Website: https://torque-th.com

Recent Knowledge

ทอร์คชี้เป้า ประจำเดือนพฤศจิกายน 2566

ช่างขุดเจาะบาดาลมืออาชีพ ที่เราตั้งใจเลือกมาเพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้กับคุณ ใครที่กำลังมองหาช่างขุดเจาะบาดาลมากฝีมือและมากประสบการณ์ สามารถติดตามช่างจากตรงนี้ได้เลยครับ 

Read More